ทำความรู้จักวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development Life Cycle - SDLC)

   By: DH Team

   อัปเดตล่าสุด July 4, 2024

ทำความรู้จักวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development Life Cycle - SDLC)

วงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือ SDLC เป็นกระบวนการที่ใช้ในการออกแบบ พัฒนา และทดสอบซอฟต์แวร์คุณภาพสูง SDLC ประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ที่ช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ


ขั้นตอนหลักของ SDLC

SDLC ประกอบด้วยขั้นตอนหลัก 6 ขั้นตอน ดังนี้

  1. การวางแผน (Planning): กำหนดขอบเขต วัตถุประสงค์ และทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับโครงการ
  2. การวิเคราะห์ (Analysis): รวบรวมและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้และระบบ
  3. การออกแบบ (Design): สร้างแบบจำลองและสถาปัตยกรรมของระบบ
  4. การพัฒนา (Development): เขียนโค้ดและสร้างซอฟต์แวร์ตามที่ออกแบบไว้
  5. การทดสอบ (Testing): ตรวจสอบคุณภาพและประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์
  6. การบำรุงรักษา (Maintenance): แก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงซอฟต์แวร์หลังการใช้งาน


โมเดล SDLC ที่นิยมใช้

มีหลายโมเดล SDLC ที่ใช้กันในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ แต่ละโมเดลมีจุดเด่นและข้อจำกัดแตกต่างกัน ได้แก่

1. Waterfall Model 

โมเดลแบบลำดับขั้นตอน เหมาะกับโครงการที่มีความต้องการชัดเจนและไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย

2. Agile Model

โมเดลที่เน้นความยืดหยุ่นและการปรับตัว เหมาะกับโครงการที่ต้องการการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

3. Iterative Model

โมเดลที่พัฒนาซอฟต์แวร์เป็นรอบๆ โดยแต่ละรอบจะมีการปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์

4. Spiral Model

โมเดลที่ผสมผสานระหว่าง Waterfall และ Iterative เน้นการจัดการความเสี่ยง

5. V-Model

โมเดลที่เน้นการทดสอบในทุกขั้นตอนของการพัฒนา


ประโยชน์ของการใช้ SDLC

การนำ SDLC มาใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์มีประโยชน์หลายประการ ได้แก่

1. เพิ่มคุณภาพของซอฟต์แวร์

ด้วยกระบวนการที่เป็นระบบ ช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์

2. ควบคุมต้นทุนและเวลา

ช่วยในการวางแผนและติดตามความคืบหน้าของโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ปรับปรุงการสื่อสาร

สร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างทีมพัฒนาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

4. จัดการความเสี่ยง

ช่วยระบุและจัดการความเสี่ยงตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ


5. เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

ผลิตซอฟต์แวร์ที่ตรงตามความต้องการและความคาดหวังของผู้ใช้


การเลือกโมเดล SDLC ที่เหมาะสม

การเลือกโมเดล SDLC ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น

  • ขนาดและความซับซ้อนของโครงการ
  • ความชัดเจนของความต้องการ
  • ระยะเวลาและงบประมาณที่มี
  • ประสบการณ์ของทีมพัฒนา
  • ความต้องการของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เลือกโมเดล SDLC ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละโครงการ


แนวโน้มและนวัตกรรมใน SDLC

SDLC มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ แนวโน้มล่าสุดรวมถึง

  • DevOps: การผสมผสานระหว่างการพัฒนาและการปฏิบัติการ เพื่อเพิ่มความเร็วและคุณภาพในการส่งมอบซอฟต์แวร์
  • Continuous Integration/Continuous Deployment (CI/CD): การอัตโนมัติกระบวนการทดสอบและการนำซอฟต์แวร์ขึ้นใช้งาน
  • Artificial Intelligence in SDLC: การใช้ AI ในการวิเคราะห์โค้ด ทดสอบ และคาดการณ์ปัญหา
  • Low-Code/No-Code Development: แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ที่ไม่ใช่นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้


การติดตามแนวโน้มเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งบทความนี้ของทาง devhub ได้นำเสนอภาพรวมของวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDLC) ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการสร้างซอฟต์แวร์คุณภาพสูง โดยการเข้าใจและประยุกต์ใช้ SDLC อย่างเหมาะสมจะช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ และสามารถแข่งขันได้ในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันนั่นเองครับ


เปิดโลกการเขียนโปรแกรมและ Software Development ด้วย online courses ที่จะพาคุณอัพสกิลและพัฒนาสู่การเป็นมืออาชีพ เรียนออนไลน์ เรียนจากที่ไหนก็ได้ พร้อมซัพพอร์ตหลังเรียน

คอร์สเรียนเขียนโปรแกรม