จากนักกฏหมาย สู่ Software Engineer ที่ Google ในวัย 39

   By: DH Team

   อัปเดตล่าสุด Nov. 6, 2024

จากนักกฏหมาย สู่ Software Engineer ที่ Google ในวัย 39

ไม่ได้จบด้านคอมฯ เช่น Computer Science, Computer Engineering, etc เป็นโปรแกรมเมอร์หรือ software dev ได้หรือไม่ ? คงเป็นคำถามที่มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ 

คำถามนี้ที่เพื่อน ๆ หลายคนสงสัยอาจจะค่อย ๆ หมดไป ถ้าได้อ่านเรื่องราวนี้ ที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลาย ๆ คนได้ครับ

นี่คือเรื่องราวสุดยอดจากคุณ Zubin Pratap ที่ในอดีตเคยเป็นทนายความ/นักกฏหมาย มาแทบทั้งชีวิตการทำงาน สู่การเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Engineer) ที่ Google ในวัย 39



Linkedin ของคุณ Zubin

จุดเริ่มต้นจากอาชีพนักกฏหมายในอินเดีย

คุณ Zubin จบการศึกษาด้านกฏหมายที่เมืองบังคาลอร์ ประเทศอินเดีย และได้ประกอบอาชีพทนายความมายาวนานกว่า 15 ปี หลังจากนั้นได้ย้ายไปออสเตรเลียเพื่อเข้าร่วมงานกับหนึ่งในบริษัทกฎหมายใหญ่ที่สุดในโลกที่สำนักงานเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย


เริ่มต้นโค้ดจริงจังในวัย 37

โดยแกพยายามสอนตัวเองเขียนโค้ดถึงสามครั้ง ในปี 2014, 2015 และ 2017 แต่ก็ล้มเลิกความตั้งใจไปทุกครั้ง เพราะพยายามข้ามขั้นเกินไป (คือจริง ๆ ควรจะเรียนตามสเต็ปไปทีละขั้น) แต่สุดท้ายได้เริ่มเรียนรู้การเขียนโค้ดแบบจริงจังอีกครั้งด้วยตัวเอง (self-taught)ในวัย 37 ปี ด้วยขั้นตอนที่ถูกต้อง ค่อยเป็นค่อยไป


ก่อตั้งสตาร์ทอัพชื่อ Whooshka

หลังจากพอมีความรู้ ฝึกฝนทักษะในด้าน Software Development พอสมควรแล้ว ก็ได้เวลาลงสนามจริง ปี 2019 ได้ก่อตั้งสตาร์ทอัพที่ชื่อ Whooshka เป็นแอปที่ช่วยค้นหาที่จอดรถได้ภายใน 5 นาที ซึ่งแอปนี้ทำงานได้ดีเลยทีเดียวครับ แต่ติดปัญหาเรื่องไม่สามารถสเกลธุรกิจได้ สุดท้ายจึงไม่ได้ทำต่อ

อันนี้ก็ให้ข้อคิดได้ว่าการทำแอปให้คนใช้งาน แล้วต่อยอดไปสร้างจนเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ


เข้าทำงานตำแหน่ง Software Dev บริษัทที่สอง

จากนั้นปี 2019 เข้าทำงานในตำแหน่ง Full Stack Developer ที่ Aplas บริษัทที่ทำด้าน SaaS (Software as a Service) ทำอยู่ 1 ปี กว่า


Software Engineer ที่ Google !!

เรื่องราวยังกับเทพนิยาย (แต่เชื่อว่าล้วนจากการทำงานและฝึกฝนอย่างหนัก) ในปี 2020 - 2022 กาลเวลาผ่านไปไวยังกับโกหก แกได้เข้าทำงานในตำแหน่ง Software Engineer ที่ Google !! โดย tech stacks ที่ใช้คือ Golang, Typescript, JavaScript, Java, GCP

รายละเอียดตรงนี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยมากนัก แต่เอาเป็นว่าแกเข้าทำงาน Google ได้คือสุด


ย้ายออกจาก Google สู่บริษัทด้านคริปโตฯ

หลังจากทำงานเป็น Software Engineer อยู่ที่ Google อยู่กว่าสองปี (ระหว่างช่วง Covid ด้วย) จากนั้นแกได้ลาออก และเริ่มทำงานในด้านคริปโตที่ Chainlink Labs ในตำแหน่ง Software Engineer / Developer Relations Engineer

ปรัชญาที่สำคัญของแก คือ "1% better every day", หรือดีขึ้น 1% ในทุก ๆ วัน (ควรเอามาใช้ตามแกแฮะ)

บอกได้คำเดียวว่า Amazing มาก ๆ ครับ เป็น career change ที่มหัศจรรย์จริง ๆ และตอนนี้แกได้ผันตัวไปเป็นโค้ชเกี่ยวกับ Career Change ด้าน Software Dev เรียบร้อยครับ


✅ สรุปคำแนะนำจากคุณ Zubin Pratap

  • 1. เริ่มต้นด้วย ‘สิ่งที่ไม่ควรทำ’ หรือ "Don't" เพราะมันมีสิ่งที่เราต้องการทำเต็มไปหมดในหัว ดังนั้นต้องโฟกัสที่ don't ก่อน แทนการโฟกัส do
  • 2. ไม่ควรมองไปที่ยอดเขา (ของความสำเร็จ)ในช่วงแห่งการเรียนรู้นั้น ให้โฟกัสที่กระบวนการ (process) ก่อน แทนที่จะมุ่งไปที่เป้าหมายสูงสุด ซึ่งอาจทำให้รู้สึกท้อแท้ได้ ถ้าเราไปไม่ถึง
  • 3. โฟกัสที่กระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาต่อเนื่อง ควรเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ ทำทีละนิด แต่ทำให้สม่ำเสมอ การทุ่มเทเวลาอย่างต่อเนื่องทุกวันมีประสิทธิภาพมากกว่าการพยายามทำอัดในช่วงเวลาสั้น ๆ คนที่ฝึกเขียนโค้ดวันละ 60 นาที ทุกวัน ย่อมเรียนได้ดีและมีประสิทธิภาพกว่าคนที่เรียนเขียนโค้ดอัดทีเดียวเป็น 20 - 30 ชั่วโมงในวันเสาร์อาทิตย์ (คีย์เวิร์ดก็คือความสม่ำเสมอและวินัยนั่นเอง)




แกได้แชร์ Career Change to Code ใน Freecodecamp YouTube ด้วยครับ

สรุปข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้

  • ✅ 1. ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ (ขนาดเคยเป็นทนายมาก่อนยังได้เป็น Software Engineer ที่ Google)
  • ✅ 2. การเรียนเขียนโค้ดไม่มีคำว่าสาย (คุณ Zubin แกยังเริ่มเรียนในวัย 37)
  • ✅ 3. ไม่ว่าคุณจะจบสาขาไหนมา คุณก็มีโอกาสที่จะเป็น programmer หรือ software developer ได้
  • ✅ 4. วินัยคือสิ่งสำคัญ ไม่ต้องอัดหรือเรียนเยอะแต่ขาดความต่อเนื่อง แต่ให้ทำสม่ำเสมอในทุก ๆ วัน (เฉียบ !!)


ซัพพอร์ตทีมงาน สามารถกดเพิ่มเพื่อนใน devhub.in.th LINE Official เพื่อที่จะได้ไม่พลาดทุก ๆ event แจ่ม ๆ ที่จะถึงก่อนใคร พร้อมทั้งคลาสเรียนฟรีบน Discord community ของเรา


อ้างอิง


เปิดโลกการเขียนโปรแกรมและ Software Development ด้วย online courses ที่จะพาคุณอัพสกิลและพัฒนาสู่การเป็นมืออาชีพ เรียนออนไลน์ เรียนจากที่ไหนก็ได้ พร้อมซัพพอร์ตหลังเรียน

เรียนเขียนโปรแกรม