ทำความรู้จักกับ SSD และวิธีในการเลือกซื้อ storage ที่เหมาะสม

   By: DH Team

   อัปเดตล่าสุด April 11, 2024

ทำความรู้จักกับ SSD และวิธีในการเลือกซื้อ storage ที่เหมาะสม

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง SSD (Solid State Drive) ได้กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลที่เหนือกว่า HDD แบบดั้งเดิม และการใช้พลังงานที่น้อยลง SSD มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ

ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ SSD และวิธีเลือก SSD ที่เหมาะสมกับความต้องการของเรากันครับ


SSD คืออะไร?

SSD หรือ Solid State Drive คือ อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ใช้ชิปหน่วยความจำแฟลช (Flash Memory) ในการจัดเก็บข้อมูล แตกต่างจาก HDD (Hard Disk Drive) แบบดั้งเดิมที่ใช้แผ่นจานแม่เหล็กหมุนในการอ่านและเขียนข้อมูล SSD ไม่มีส่วนที่เคลื่อนไหวทางกลไก จึงมีความทนทานต่อแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนได้ดีกว่า HDD

ข้อดีของ SSD

SSD มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลที่สูงกว่า HDD หลายเท่า ด้วยความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว SSD จึงช่วยให้คอมพิวเตอร์บูตเร็วขึ้น เปิดแอปพลิเคชันได้ไวขึ้น และโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ SSD ยังใช้พลังงานน้อยกว่า HDD ทำให้ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับแล็ปท็อปและอุปกรณ์พกพา


ประเภทของ SSD และเทคโนโลยีที่ใช้

SSD มีให้เลือกหลายประเภท แต่ละประเภทมีข้อแตกต่างเชิงเทคนิคและประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย ประเภทหลัก ๆ ของ SSD ได้แก่

  1. SATA SSD: ใช้อินเตอร์เฟส SATA (Serial ATA) เช่นเดียวกับ HDD ทั่วไป SATA SSD มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลที่เร็วกว่า HDD แต่ช้ากว่า SSD ประเภทอื่น เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการอัปเกรดจาก HDD เป็น SSD ในราคาที่เข้าถึงได้
  2. PCIe SSD: ใช้อินเตอร์เฟส PCIe (Peripheral Component Interconnect Express) ซึ่งมีแบนด์วิดท์สูงกว่า SATA PCIe SSD จึงมีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่สูงกว่า SATA SSD หลายเท่า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การตัดต่อวิดีโอ หรือการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก
  3. NVMe SSD: ใช้โปรโตคอล NVMe (Non-Volatile Memory Express) บน PCIe อินเตอร์เฟส NVMe ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากความเร็วของหน่วยความจำแฟลชได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงมีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลสูงที่สุดในบรรดา SSD ทุกประเภท เหมาะสำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การเล่นเกมหรือการใช้งานเซิร์ฟเวอร์


วิธีการเลือก SSD สำหรับคอมพิวเตอร์ของเรา

เมื่อต้องเลือกซื้อ SSD ให้พิจารณาปัจจัยต่อไปนี้ครับ

  1. ความจุ: เลือก SSD ที่มีความจุเพียงพอต่อการใช้งานของคุณ หากใช้เป็นไดรฟ์ระบบ 256GB ถึง 512GB ถือว่าเพียงพอสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ส่วนผู้ที่มีไฟล์ขนาดใหญ่จำนวนมากอาจต้องการ SSD ความจุ 1TB ขึ้นไป
  2. ความเร็ว: พิจารณาความเร็วในการอ่านและเขียนของ SSD ซึ่งมักระบุในหน่วย MB/s (เมกะไบต์ต่อวินาที) SSD ที่มีความเร็วสูงจะทำให้ระบบทำงานได้ไวขึ้น แต่ก็มักมีราคาแพงกว่า
  3. อินเตอร์เฟส: ตรวจสอบว่าเมนบอร์ดของคุณรองรับอินเตอร์เฟสประเภทใด (SATA, PCIe หรือ M.2) และเลือก SSD ที่ใช้อินเตอร์เฟสนั้นได้ การเลือก SSD ที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุด เช่น NVMe จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม
  4. ราคา: SSD มีราคาแพงกว่า HDD โดยทั่วไป ดังนั้นจึงควรกำหนดงบประมาณ และเลือก SSD ที่มีความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพกับราคาที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
  5. แบรนด์และการรับประกัน: เลือกซื้อ SSD จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีการรับประกันที่ยาวนาน เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย


สรุป

SSD ไม่เพียงแต่ช่วยให้คอมพิวเตอร์ของเราทำงานได้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความทนทานและความเชื่อถือได้ในการเก็บข้อมูล การเลือก SSD ที่เหมาะสมถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับทุกคนที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความจุ ความเร็ว อินเตอร์เฟส ราคา และแบรนด์ จะทำให้เพื่อน ๆ สามารถเลือก SSD ที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของเราได้อย่างเหมาะสมครับ อีกทั้งการอัปเกรดไปใช้ SSD จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ และยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป


อ้างอิง


เปิดโลกการเขียนโปรแกรมและ Software Development ด้วย online courses ที่จะพาคุณอัพสกิลและพัฒนาสู่การเป็นมืออาชีพ เรียนออนไลน์ เรียนจากที่ไหนก็ได้ พร้อมซัพพอร์ตหลังเรียน

คอร์สเรียนเขียนโปรแกรม