Web Browser คืออะไร ตัวไหนนิยมสุดในปี 2024

   By: DH Team

   อัปเดตล่าสุด March 4, 2024

Web Browser คืออะไร ตัวไหนนิยมสุดในปี 2024


Web Browser คืออะไร ?

Web Browser (เว็บเบราว์เซอร์) คือ เว็บแอปพลิเคชันที่ให้เราสามารถเข้าถึงและดูเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้สะดวก โดยเว็บ web browser จะทำการดึงหน้าเว็บต่างในโลก ๆ จากเซิร์ฟเวอร์และแสดงบนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือของเรา

เว็บเบราว์เซอร์ใช้โปรโตคอลอย่าง HTTP (Hypertext Transfer Protocol) หรือ HTTPS (HTTP Secure) เพื่อสื่อสารกับเว็บเซิร์ฟเวอร์และแสดงหน้าเว็บ ซึ่งเนื้อหาที่แสดงผลก็ประกอบไปด้วยข้อความ รูปภาพ วิดีโอ เสียง และมัลติมีเดียแบบต่าง ๆ

เว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยมในปัจจุบันก็ ได้แก่ Google Chrome, Mozilla Firefox, Apple Safari, Microsoft Edge และ Opera 


Web Browser vs Search Engine

ยังมีหลายคนที่ยังสับสนระหว่าง web browser กับ search engine ว่าเป็นตัวเดียวกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ครับ ให้ลองดูในภาพต่อไปนี้


ตัวอย่าง Search Engine (Google)


ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Firefox โดย Firefox คือ web browser ไม่ใช่เสิร์ชเอ็นจิน ลองดูในช่องเสิร์ชของ Firefox ตัว default สำหรับเสิร์ชยังเป็น Google Search


ตัว default ของ Firefox สำหรับเสิร์ชยังเป็น Google Search

ตัวอย่าง Search Engines

  1. Google Search
  2. Microsoft Bing
  3. Yahoo!
  4. Yandex
  5. Baidu
  6. DuckDuckGo

จะเห็นว่าไม่มี Firefox, Safari, Microsoft Edge เป็นต้น เพราะว่าไม่ใช่เสิร์ชเอนจินนั่นเอง

Note: Google ยังเป็นเสิร์ชเอนจินที่ได้รับความยอดนิยมสูงสุดสำหรับการทำ SEO ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการดึงคนเข้าเว็บแบบไม่ต้องยิงแอดโฆษณา ได้คนเข้าเว็บแบบ organic โดยเพื่อน ๆ สามารถอ่านหรือเรียนรู้เพิ่มเติมใน SEO คืออะไร ? บทความนี้เขาอธิบายได้เข้าใจง่ายมากครับ


Web Browser ยอดนิยมสูงสุดปี 2023

มาดูกันว่าในปี 2023 มี Web Browsers ตัวไหนบ้างที่คนนิยมใช้มากที่สุด

  1. Google Chrome: 65.74%
  2. Apple Safari: 18.86%
  3. Microsoft Edge: 4.27%
  4. Mozilla Firefox: 2.92%
  5. Samsung Internet: 2.6%
  6. Opera: 2.27%


web browsers ที่ได้รับความยอดนิยมสูงสุดในปี 2023 (Photo credit: oberlo.com)


ประวัติศาสตร์ของ Web Browser

ต้องย้อนกลับไป ประวัติศาสตร์การก่อกำเนิดของเว็บเบราว์เซอร์ โดยขอย้อนไปถึงยุคแรก ๆ ของอินเทอร์เน็ต ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 ในเวลานั้น เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web: WWW) ยังเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างใหม่อยู่ครับ และยังไม่มี UI ให้ผู้ใช้ได้เข้าใช้งานได้สะดวกมากนักเหมือนในปัจจุบัน ผู้ใช้ต้องนำทางเว็บโดยใช้เบราว์เซอร์แบบข้อความเช่น Lynx ซึ่งมันยุ่งยากลำบากเหลือเกินครับ


World Wide Web (1990) เบราว์เซอร์ตัวแรกของโลก

ในปี 1990 Tim Berners-Lee นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษได้พัฒนาเว็บเบราว์เซอร์ตัวแรกชื่อว่า WorldWideWeb เป็นเบราว์เซอร์ธรรมดาที่อนุญาตให้ผู้ใช้ดูและแก้ไขหน้าเว็บ และทำงานบน NeXTSTEP ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้ Unix อย่างไรก็ตาม WorldWideWeb ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายนัก เนื่องจากต้องการให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ NeXT ได้


Mosaic (1991) เว็บเบราว์เซอร์ตัวแรกที่แสดงรูปภาพ

ในปี 1993 ทีมโปรแกรมเมอร์ของ National Center for Supercomputing Applications (NCSA) ได้พัฒนา Mosaic จนกลายเป็นเบราว์เซอร์ตัวแรกที่รองรับรูปภาพและข้อความในหน้าเดียวกัน ซึ่งทำให้เว็บดึงดูดสายตาผู้ใช้มากขึ้นและนำทาง (navigate) ได้ง่ายขึ้น โมเสกยังเป็นเบราว์เซอร์ตัวแรกที่รองรับไฮเปอร์ลิงก์ ซึ่งสามารถนำทางให้ผู้ใช้เจอเนื้อหาระหว่างหน้าเว็บต่างๆ ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น


หน้าตาของ Mosaic (Photo credit: ncsa.illinose.edu)


Netscape (1994) เว็บเบราว์เซอร์สมัยใหม่

ในปี 1994 Marc Andreessen และ Jim Clark ผู้ก่อตั้ง Mosaic ได้ก่อตั้ง Netscape Communications Corporation และพัฒนา Netscape Navigator ซึ่งกลายเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่โดดเด่นอย่างรวดเร็วในช่วงกลางทศวรรษ 1990 Netscape Navigator มีฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมายที่เป็นมาตรฐานในเว็บเบราว์เซอร์สมัยใหม่ เช่น บุ๊กมาร์ก, จาวาสคริปต์ และปลั๊กอิน


หน้าตาของ Netscape Navigator ในปี 1994 (Photo credit: macintoshgarden.org)


Internet Explorer (1995)

ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 Microsoft ได้พัฒนา Internet Explorer ซึ่งกลายเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่โดดเด่นในช่วงต้นทศวรรษ 2000 Internet Explorer มาพร้อมกับ Microsoft Windows ซึ่งทำให้ได้เปรียบกว่าเบราว์เซอร์คู่แข่งอย่างมาก นอกจากนี้ Internet Explorer ยังมีฟีเจอร์มากมายที่เป็นมาตรฐานในเว็บเบราว์เซอร์สมัยใหม่ในปัจจุบัน เช่น การเรียกดูแบบแท็บและการค้นหาแบบบูรณาการ


หน้าตาของ Internet Explorer ในปี 1995 (Photo credit: pcworld.com)



Apple Safari (2003)

Internet Explorer 5 สำหรับ Mac ซึ่งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นของ Mac OS จนถึงปี 2003 นั้นมีบั๊กสำหรับ Mac พอสมควร ทำให้ไม่เป็นที่ประทับใจของทางทีมงาน Apple มากนัก

หลังจากนั้นนักออกแบบของ Apple จึงตัดสินใจสร้างเบราว์เซอร์ที่รวดเร็วและทันสมัย โดยมีชื่อว่า "Safari"


Apple Safari ในปี 2003 (Photo Credit: cultofmac.com)


Mozilla Firefox 1.0 (2004)

ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 Mozilla ได้พัฒนา Firefox ซึ่งเป็นเว็บเบราว์เซอร์แบบโอเพ่นซอร์สที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้ใช้ที่กำลังมองหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจาก Internet Explorer Firefox มีฟีเจอร์ใหม่มากมาย เช่น การเรียกดูแบบแท็บและการบล็อกป๊อปอัป และยังรองรับส่วนขยาย (Extension) ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเบราว์เซอร์ด้วยฟังก์ชันอื่น ๆ เสริมเพิ่มเติมได้


จนกระทั่งในปี 2004 Firefox 1.0 เปิดตัวในปี 2547 และประสบความสำเร็จอย่างมาก — ในเวลาไม่ถึงปี มีการดาวน์โหลดมากกว่า 100 ล้านครั้ง Firefox เวอร์ชันใหม่ปล่อยออกมาเป็นว่าเล่นตั้งแต่นั้นมาและสร้างสถิติใหม่อยู่เสมอ ความนิยมของ Firefox ช่วยให้ผู้ใช้กลับมามีทางเลือกมากขึ้น การแข่งขันครั้งใหม่ได้เร่งให้เกิดนวัตกรรมและปรับปรุงอินเทอร์เน็ตให้ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

โดยช่วงนั้น Mozilla Firefox ได้รับรางวัลมากมาย ด้วยสุดยอดฟีเจอร์ดังต่อไปนี้ในขณะนั้น

  • Pop-up Blocking
  • Online Fraud Protection
  • Faster, Easier
  • More Efficient Browsing
  • Extensible with Hundreds of Add-ons
  • Easy Migration


Google Chrome (2008)

Google Chrome เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่พัฒนาโดย Google เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 ต่อไปนี้คือประวัติโดยย่อของการพัฒนา

  • ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2547 Google ได้เข้าซื้อบริษัทสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า Android Inc. ซึ่ง Google กำลังทำงานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ในขณะนั้น แต่ในที่สุดการเข้าซื้อบริษัทของ Google ก็นำไปสู่การพัฒนา Chrome
  • ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2551 Google ได้เปิดตัว Chrome รุ่นเบต้าออกสู่สายตาสาธารณะชนรุ่นแรก ซึ่งได้รับการออกแบบให้เร็วขึ้น มีเสถียรภาพมากขึ้น และปลอดภัยมากขึ้นกว่าเว็บเบราว์เซอร์ที่มีอยู่ในขณะนั้น
  • Google Chrome สำหรับ Windows ถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2551 โดยมีเวอร์ชันสำหรับ Linux และ macOS ตามมาในปี 2552
  • ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Google ได้เพิ่มคุณสมบัติมากมายให้กับ Chrome รวมถึงการอัปเดตอัตโนมัติ โปรแกรมเรียกดูไฟล์ PDF ในตัว การซัพพอร์ตส่วนขยาย(Extension) ตัวจัดการงาน (Task Management) และเบราว์เซอร์เวอร์ชันมือถือ
  • ในปี 2559 Google ได้ทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกับ Chrome โดยยกเลิกการรองรับ NPAPI (Netscape Plugin API) ซึ่งส่งผลต่อปลั๊กอินของเบราว์เซอร์ยอดนิยมบางตัว เช่น Java, Silverlight และ Adobe Flash
  • ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Google ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ Chrome ด้วยคุณลักษณะต่างๆ เช่น การแยกไซต์ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ที่เป็นอันตรายเข้าถึงข้อมูลจากเว็บไซต์อื่นๆ

ปัจจุบัน (ปี 2023) Google Chrome เป็นหนึ่งในเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 65% ตามมาห่าง ๆ ด้วย Apple Safari และ Microsoft Edge, Firefox, etc ตามลำดับครับ


อ้างอิง


เปิดโลกการเขียนโปรแกรมและ Software Development ด้วย online courses ที่จะพาคุณอัพสกิลและพัฒนาสู่การเป็นมืออาชีพ เรียนออนไลน์ เรียนจากที่ไหนก็ได้ พร้อมซัพพอร์ตหลังเรียน

เรียนเขียนโปรแกรม