ใช้งาน GitHub ร่วมกับ Git

   อัปเดตล่าสุด Feb. 21, 2024

GitHub คืออะไร?

GitHub คือ ผู้ให้บริการ ที่ทำหน้าที่เก็บโปรเจคท์หรือเก็บซอร์สโค้ดของเรานั่นเองครับไว้บนคลาวด์หรือไว้บนออนไลน์นั่นเอง โดยต้องมีการเชื่อมต่อ internet ถึงจะต้องใช้ GitHub ได้ แต่ Git นั้นไม่ต้อง



สร้าง GitHub Repo

หลังจากคอนฟิก User เสร็จเรียบร้อยในบทเรียนก่อนหน้า ต่อมาเราจะมาสร้าง repository (เรียกสั้น ๆ ว่า repo) ซึ่ง repository ก็เปรียบเสมือนโฟลเดอร์ที่เก็บซอร์สโค้ดหรือโปรเจคท์ของเรานั่นเองครับ จะได้เรียนรู้ Git ได้อย่างเห็นภาพมากขึ้น


ให้ไปที่ github.com  จากนั้นก็จัดการ Sign up เพื่อลงทะเบียนให้ใช้ GitHub หรือถ้าใครที่สมัครไว้แล้วก็ Sign in ได้เลยครับ



กำหนดชื่อ Repo และตั้งค่าแบบ private




เสร็จแล้วจะได้ Repo เปล่า ๆ เรียบร้อย




ซึ่งโครงสร้าง URL ของ repository จะเป็นแบบนี้ 

https://github.com/GitHubUserName/your-project-repo.git


เราจะได้ Repo URL ของโปรเจคท์นี้คือ

https://github.com/SonnyDH/my-first-project.git


Clone โปรเจคท์จาก GitHub

การ clone ใน Git ก็คือการที่เราก็อปปี้ repository ที่อยู่บน GitHub มาใช้งานนั่นแหละครับ โดยเราสามารถ clone ด้วยคำสั่ง. git clone <repository-url>  โดยให้เราเปิด terminal ขึ้นมาแล้วรันคำสั่งดังต่อไปนี้ (เปลี่ยน repository-url เป็นของตัวเองนะครับ) พร้อมทั้ง cd ไปที่ path ที่เราต้องการเก็บโปรเจคท์ เช่น Drive C, D หรือ Desktop ได้ตามต้องการ 

$ cd desktop


จากนั้น clone ได้เลย

$ git clone https://github.com/SonnyDH/my-first-project.git


เสร็จแล้ว cd ไปที่โปรเจคท์ที่เราได้ clone มา

$ cd my-first-project

ตอนนี้เราก็สามารถเข้าถึง root directory และใช้งานโปรเจคท์ที่เรา clone มาจาก GitHub เรียบร้อย


จัดการกับ Github โปรเจคท์

เมื่อเข้าใช้งาน repository ที่ได้ clone มาแล้ว ทีนี้เราจะได้เห็นพลังของ Git กันแล้วครับ ว่ามันสุดยอดแค่ไหน ก่อนอื่นให้ลองสร้างไฟล์อะไรสักไฟล์ขึ้นมาใหม่ ในที่นี้ผมจะลองสร้างไฟล์อะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับ Python ขอใช้ชื่อว่า  hello_world.py 

# hello_world.py
print("Hello, World")


ในไฟล์นี้ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือหวือหวาอะไร เป็นเพียงแค่ข้อความ  Hello, World  ธรรมดา


ตอนนี้เราได้ทำการเพิ่มไฟล์เข้ามาใน repo ของเราแล้วเพื่อประเดิมไฟล์แรก จากนั้นจะทำการ track ตัวโปรเจคท์ของเราแล้ว ด้วยคำสั่ง

$ git init


ลอง git status ดู จะเห็นว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง "nothing to....." เพราะว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรกับโค้ดหรืออัปเดตอะไรนั่นเอง

$ git status

จะได้

On branch main

Your branch is up to date with 'origin/main'.

nothing to commit, working tree clean

จากนั้นเพิ่มไฟล์เข้าไปใน  repo เพื่อให้เราสามารถ track ซอร์สโค้ดได้  ซึ่งในที่นี้ก็คือไฟล์  hello_world.py 

$ git add hello_world.py


หรือจะเพิ่มทุกไฟล์ในครั้งเดียวด้วย "dot" ก็ได้เช่นกัน

$ git add .

 

จากนั้นทำการ commit โค้ดเข้าไปใน Staging Area (ซึ่งมันก็คือพื้นที่ที่จะเก็บซอร์สโค้ดใน local computer ของเราโดยที่ยังไม่ได้ push ไป Remote ครับ)

$ git commit -m "add hello_world.py file"

ซึ่งการ commit เปรียบเสมือนกับ time machine หรือ snapshot ที่ทำให้เราย้อนเวลา เพื่อกลับมาดูว่าตอนนั้นเราได้ทำอะไรลงไปกับโค้ดชุดนั้น ซึ่งสิ่งที่เราทำก็คือเพิ่มไฟล์   hello_world.py  เข้าไปใน repo ของเรานั่นเอง ดังนั้น การเขียน commit message ก็ต้องเขียนให้สื่อความหมายและเข้าใจได้ง่ายว่าเราทำอะไรกับโค้ดของเราครับ

สเต็ปถัดไปเราจะมาเริ่มนำโปรเจคท์ของเราขึ้น GitHub อีกครั้ง โดยจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. กำหนดชื่อ branch

ทำการกำหนดชื่อ branch ให้เป็นชื่อ main (ตัว default คือ master)

$ git branch -M main


2. Add origin

คำสั่งนี้จะเชื่อมโยง local repo ในเครื่องของเราเข้ากับ remote repo ที่อยู่บน GitHub ซึ่ง origin เป็นชื่อมาตรฐานที่ใช้เรียก remote repo และ URL ก็คือที่อยู่ของ repository บน GitHub ที่เราต้องการ push โค้ดขึ้นไป

$ git remote add origin https://github.com/SonnyDH/my-first-project.git


3. Push

ทำการ push หรือส่งโปรเจคท์ของเราขึ้น GitHub ได้เลย

$ git push -u origin main


เป็นอันเสร็จสิ้น เมื่อกด refresh ในหน้า GitHub repo ของเราดูจะพบว่า ตอนนี้ไฟล์  hello_world.py  ได้ถูกเพิ่มเข้ามาใน  my-first-project  ซึ่งเป็น repository ของเราเรียบร้อย

ก็เป็นอันเสร็จสิ้นในส่วนของ Git และ GitHub 



คอร์สเรียนแนะนำ

Web Deployment on DigitalOcean

สอนใช้งาน DigitalOcean หนึ่งใน cloud ยอดนิยมในปัจจุบัน เพิ่มทักษะการ depl…