อินโดนีเซียเนื้อหอม ไมโครซอฟท์ลงทุนใน AI infra มหาศาลกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์
ไมโครซอฟท์ประกาศลงทุนถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยในตอนนี้ก็ 6.33 หมื่นล้านบาทโดยประมาณ) เพื่อผลักดันโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และ AI ในอินโดนีเซีย พร้อมทั้งโครงการพัฒนาทักษะและสนับสนุนชุมชนนักพัฒนาในประเทศ
เรียกได้ว่านี่นับเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 29 ปีที่ไมโครซอฟท์ดำเนินธุรกิจในอินโดนีเซียเลยทีเดียวครับ
Satya Nadella ซีอีโอของไมโครซอฟท์กับ Joko Widodo ประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย (ที่มาภาพ: news.microsoft.com)
รายละเอียดการลงทุนของไมโครซอฟต์ในอินโดนีเซีย
- เงินลงทุนจำนวน 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะนำไปใช้ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และ AI ใหม่ในอินโดนีเซียในช่วง 4 ปีข้างหน้า
- มีแผนพัฒนาทักษะด้าน AI ให้กับประชาชน 840,000 คน
- ให้การสนับสนุนชุมชนนักพัฒนาที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นชุมชนนักพัฒนาใหญ่เป็นอันดับ 3 ใน Asia-Pacific บน GitHub
- ช่วยขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ "Golden Indonesia 2045" ของรัฐบาล ที่ต้องการผลักดันอินโดนีเซียให้เป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจระดับโลก
แผนพัฒนาทักษะ AI ในอาเซียน
ไมโครซอฟท์ยังได้ประกาศแผนการพัฒนาทักษะ AI ให้กับ 2.5 ล้านคนในกลุ่มประเทศอาเซียน ภายในปี 2025 ด้วย โดยจะร่วมมือกับรัฐบาล องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และชุมชนในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม
ความเห็นจากผู้บริหารระดับสูง
- Satya Nadella ประธานและซีอีโอของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า "AI รุ่นใหม่กำลังเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานของผู้คนทั่วโลก การลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้อินโดนีเซียเจริญรุ่งเรืองในยุคใหม่นี้"
- รัฐมนตรีกระทรวงสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ เน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ซึ่งสอดคล้องกับความทะเยอทะยานของอินโดนีเซียที่จะขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมดิจิทัล
- ประธาน Microsoft Indonesia กล่าวว่า "การลงทุนนี้เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมและบุคลากรดิจิทัลต่อไป"
ศักยภาพและความท้าทายของอินโดนีเซีย
อินโดนีเซียตั้งเป้าที่จะก้าวสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ตามวิสัยทัศน์ "Golden Indonesia 2045" ที่มุ่งผลักดันให้ประเทศเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจระดับโลกภายในปี 2045 การลงทุนของไมโครซอฟท์ในครั้งนี้จะช่วยให้อินโดนีเซียสามารถใช้ประโยชน์จากความต้องการบริการ Cloud Computing ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจและผลิตภาพที่เกิดจากเทคโนโลยี AI (ที่มา: CNBC)
และด้วยขนาดตลาดที่ใหญ่และกำลังเติบโต
อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ด้วยจำนวนประชากรกว่า 270 ล้านคน และเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตลาดขนาดใหญ่นี้นับเป็นโอกาสทองสำหรับบริษัทเทคโนโลยีอย่างไมโครซอฟท์ในการขยายฐานลูกค้าและสร้างรายได้ให้แก่บริษัท
จะเห็นว่าอินโดนีเซียกำลังจะก้าวกระโดดเข้าสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว ด้วยการผลักดันของทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างไมโครซอฟต์ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน อีกไม่กี่ปีเราอาจจะได้เห็นอินโดนีเซียแปลงโฉมเป็นประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของโลกก็เป็นได้ครับ
ที่มา
