ChatGPT สุดยอด AI เปลี่ยนโลก

   By: DH Team

   อัปเดตล่าสุด April 29, 2024

ChatGPT สุดยอด AI เปลี่ยนโลก

หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินชื่อของ ChatGPT กันมาบ้างแล้ว ใช่ไหมครับ? ถ้ายังไม่เคยรู้จัก วันนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ChatGPT ให้มากขึ้น พร้อมทั้งไขข้อสงสัยว่าทำไมหลายคนถึงพูดถึงมันกันเยอะขนาดนี้ และทำไมผมถึงบอกว่ามันคือ AI เปลี่ยนโลก !!

ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ถูกจับตามองมากที่สุด และหนึ่งในตัวอย่างของ AI ที่กำลังสร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลก ก็คือ ChatGPT นั่นเอง ซึ่งหลายคนเชื่อว่ามันจะเข้ามาปฏิวัติและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำงานของเราไปโดยสิ้นเชิงเลยทีเดียว


ChatGPT คืออะไร

ChatGPT คือปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท OpenAI ซึ่งมีความสามารถในการประมวลผลและทำความเข้าใจภาษามนุษย์ได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยการผสานเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing หรือ NLP) และการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) เข้าด้วยกัน ทำให้ ChatGPT สามารถสนทนาโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับกำลังพูดคุยกับมนุษย์จริง ๆ เลยทีเดียว


OpenAI สุดยอดองค์กรด้าน AI ผู้สร้าง ChatGPT

หลายคนคงทราบกันแล้วว่า OpenAI คือผู้อยู่เบื้องหลัง ChatGPT เป็นสุดยอดทีมพัฒนาด้าน AI ของโลก มี CEO คนปัจจุบันคือ Sam Altman อดีตผู้บริหารของ Y-combinator แห่ง Standford University สุดยอดกองทุนผู้สร้างสตาร์ทอัพชื่อก้องโลกมาแล้วมากมาย


ความสามารถของ ChatGPT

แล้ว ChatGPT ล่ะ มันทำอะไรได้บ้าง? ขอบอกเลยว่ามันมีความสามารถหลากหลายมากๆ ครับ นอกจากจะคุยโต้ตอบกับเราได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ChatGPT ยังสามารถ

  • แปลภาษา: ChatGPT สามารถแปลข้อความระหว่างภาษาต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น หรือแม้แต่ภาษาไทยของเราเอง
  • สรุปเนื้อหา: หากเรามีบทความหรือเนื้อหาที่ยาวเกินไป ChatGPT ก็สามารถช่วยสรุปใจความสำคัญให้กระชับและเข้าใจง่ายมากขึ้น
  • ตรวจแก้ไขไวยากรณ์: สำหรับใครที่ไม่มั่นใจในการเขียนภาษาอังกฤษ ChatGPT ก็สามารถช่วยตรวจสอบและแก้ไขไวยากรณ์ให้ถูกต้องตามหลักภาษาได้
  • แต่งเพลงและกลอน: ด้วยความคิดสร้างสรรค์และความเข้าใจในศิลปะการประพันธ์ ChatGPT สามารถช่วยแต่งเนื้อเพลงหรือกลอนได้อย่างไพเราะและมีความหมาย
  • ออกแบบกราฟิก: เพียงบอก ChatGPT ถึงสิ่งที่เราต้องการ มันก็สามารถให้คำแนะนำในการออกแบบกราฟิก ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ โปสเตอร์ หรือแบนเนอร์ต่างๆ ได้อย่างสวยงามและตรงใจ
  • สร้างเกมและควิซ: ChatGPT สามารถช่วยเราสร้างเกมหรือควิซสนุกๆ เพื่อใช้ในการเรียนการสอนหรือความบันเทิงได้ ด้วยการคิดคำถามและออกแบบกลไกที่น่าสนใจ

จะเห็นว่าศักยภาพของ ChatGPT นั้นแทบจะไร้ขีดจำกัด สามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายสาขาอาชีพ ตั้งแต่งานเขียน งานแปล งานออกแบบ ไปจนถึงวงการแห่งความบันเทิง ซึ่งในอนาคตมันอาจจะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของหลายๆ ธุรกิจไปอย่างสิ้นเชิงเลยก็เป็นได้ครับ

จากตัวอย่างภาพด้านล่าง ผมได้ทำการสร้างโค้ดตัวอย่างขึ้นมา (โปรแกรมเมอร์ถูกใจสิ่งนี้) เพราะอันนี้ผมได้ลองทดสอบเขียนดูแล้ว มันช่วยค้นหาโค้ดตัวอย่างที่ต้องการได้ไวกว่าค้นหาใน Google กันเลยทีเดียว


ตัวอย่างการใช้งาน ChatGPT ช่วยเขียนโค้ด ซึ่งมันแจ่มมาก !!


ผลกระทบของ ChatGPT ต่อหลากหลายอุตสาหกรรม

ไม่ใช่แค่เก่งเฉพาะตัวเท่านั้นนะครับ ศักยภาพอันหลากหลายของ ChatGPT ยังสามารถส่งผลกระทบในวงกว้างต่อหลายๆ อุตสาหกรรมอีกด้วย อาทิเช่น

  • วงการการศึกษา: ChatGPT จะเป็นเหมือนผู้ช่วยครูส่วนตัว คอยตอบคำถามและให้ความรู้กับนักเรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • แวดวงธุรกิจ: ChatGPT จะช่วยให้นักบริหารมีผู้ช่วยอัจฉริยะคอยวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์แนวโน้มตลาด ช่วยการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
  • วงการสื่อและบันเทิง: ChatGPT สามารถช่วยเขียนบทความ บทภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งสร้างเนื้อเพลงได้เลยล่ะครับ อยู่ยากกันแล้วทีนี้

เห็นไหมครับว่า ด้วยความสามารถขนาดนี้ ไม่แปลกเลยที่ ChatGPT จะถูกจับตามองจากหลายภาคส่วนว่ามันอาจจะเข้ามา disrupt อุตสาหกรรมแบบที่เราๆ คาดไม่ถึงก็เป็นได้


ข้อจำกัดและความท้าทายของ ChatGPT

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ ChatGPT จะมีความสามารถอันน่าทึ่งขนาดไหน แต่มันก็ยังไม่ใช่ AI ที่สมบูรณ์แบบซะทีเดียวนะครับ ยังมีข้อจำกัดและความท้าทายหลายอย่างที่ต้องพัฒนาต่อไป เช่น:

  • ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: เนื่องจาก ChatGPT ถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลมหาศาลจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจจะมีข้อมูลที่ผิดพลาดหรือข้อมูลเบี้ยวๆ ปะปนอยู่ด้วย ทำให้บางครั้งคำตอบที่ได้อาจจะขาดความแม่นยำไปบ้าง
  • ประเด็นด้านจริยธรรม: หากมีการนำ ChatGPT ไปใช้ในทางที่ผิด เช่น สร้างข่าวปลอม ปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง เราจะสามารถควบคุมมันได้อย่างไร นี่เป็นคำถามที่ยังต้องหาคำตอบกันต่อไปครับ
  • ความสามารถในการเข้าใจบริบท: แม้ ChatGPT จะฉลาดมาก แต่มันก็ยังมีข้อจำกัดในการเข้าใจบริบทที่ซับซ้อนบางอย่าง อย่างอารมณ์ ความรู้สึก หรือวัฒนธรรมท้องถิ่นของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ยังเลียนแบบได้ไม่เหมือน

จะเห็นว่าถึงแม้ ChatGPT จะฉลาดล้ำ แต่ก็ยังมีเรื่องที่ต้องพัฒนาอีกเยอะ ซึ่งนักวิจัย AI กำลังค้นคว้าและพยายามพัฒนามันให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลาเลยล่ะครับ


ChatGPT 3.5 (ฟรี) vs ChatGPT 4 (แบบจ่ายเงิน)

สำหรับใครที่อยากลองใช้ ChatGPT ดูบ้าง ตอนนี้ OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT 3.5 ในรูปแบบใช้งานฟรีแล้วนะครับ แค่เข้าไปสมัคร ก็สามารถเริ่มคุยและใช้งานได้เลย แต่ถ้าอยากได้ประสบการณ์ที่เหนือกว่า เค้าก็มี ChatGPT 4  (หรือที่เรียกว่าตัว pro หรือ ChatGPT Plus)ในแบบเสียเงินด้วยเช่นกัน โดยเวอร์ชันนี้จะมีความฉลาดล้ำกว่าหลายขุม เช่น

  • เข้าใจและโต้ตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติกว่า
  • จดจำบริบทของบทสนทนาได้ยาวนานขึ้น เหมือนคุยกับคนที่มีความจำดี ๆ นั่นเอง
  • รับส่งและเข้าใจข้อมูลในรูปแบบมัลติมีเดียอย่างรูปภาพหรือวิดีโอได้อีกด้วย

ยิ่งใช้เวอร์ชันที่เก่งกว่า ก็เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวที่ฉลาดกว่าไว้คอยช่วยเหลือเราในการทำงานหรือไขข้อสงสัย เจ๋งจริง ๆ ครับ


สรุป

จะเห็นได้ว่า ChatGPT คือตัวอย่างที่ชัดเจนของความก้าวล้ำทาง AI ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันและในหลายๆ ธุรกิจแน่นอน แม้จะยังมีข้อจำกัดและเรื่องท้าทายที่ต้องพัฒนาอีกมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันจะเป็นก้าวสำคัญที่เปิดประตูสู่โลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด พร้อมเปลี่ยนโฉมหน้าของเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไปตลอดกาล

เอาเป็นว่าหากใครสนใจอยากลองใช้ ChatGPT ดู ก็รีบไปสมัครได้เลยนะครับ แล้วคุณจะได้พบกับประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เหมือนมีผู้ช่วยอัจฉริยะส่วนตัวคอยประจำการอยู่ข้าง ๆ แถมยังฟรีอีกด้วย แต่จะจ่ายเงินซื้อเวอร์ชันที่เจ๋งกว่าหน่อยก็คุ้มค่าครับ


เปิดโลกการเขียนโปรแกรมและ Software Development ด้วย online courses ที่จะพาคุณอัพสกิลและพัฒนาสู่การเป็นมืออาชีพ เรียนออนไลน์ เรียนจากที่ไหนก็ได้ พร้อมซัพพอร์ตหลังเรียน

เรียนเขียนโปรแกรม