วิธีสมัครใช้งาน DigitalOcean สุดยอดคลาวด์ยอดนิยม คุณภาพเกินราคา

ในยุคที่การพัฒนาเว็บและแอปพลิเคชันกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว บริการคลาวด์โฮสติ้งอย่าง DigitalOcean กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักพัฒนาและธุรกิจทุกขนาด ด้วยความเรียบง่าย ประสิทธิภาพสูง และราคาที่จับต้องได้ มาดูกันว่าการเริ่มต้นใช้งาน DigitalOcean นั้นง่ายแค่ไหนกันครับ

DigitalOcean คืออะไร?

DigitalOcean เป็นผู้ให้บริการ Cloud Infrastructure ชั้นนำ ที่เน้นบริการที่ตรงไปตรงมา ราคาไม่แรง และใช้งานง่ายแม้สำหรับ dev หรือ DevOps ที่มีประสบการณ์น้อย นอกจากนี้ DigitalOcean ยังมีชุมชนนักพัฒนามากกว่า 9 แสนคนที่คอยแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือกัน พร้อมการซัพพอร์ตที่จัดเต็ม

จุดเด่นของ DigitalOcean

• ใช้งานง่าย: DigitalOcean มี UX/UI ที่คลีน ใช้งานง่าย ทำให้การจัดการ resources ต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างหรือปรับขนาดเซิร์ฟเวอร์
• ประสิทธิภาพสูง: เซิร์ฟเวอร์ของ DigitalOcean หรือที่เรียกว่า "Droplet" ให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม ด้วยฮาร์ดแวร์ระดับเฟิร์สคลาส และเครือข่ายที่ใช้ SSD เป็นหลัก
• ราคาสุดคุ้ม (ราคาไม่แรงเลยครับ): เริ่มต้นที่ $5/เดือนสำหรับ Droplet แบบพื้นฐาน ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับโปรเจคท์ทุกขนาด
• มีศูนย์ข้อมูล (data centers) หลายแห่ง: เราสามารถเลือก data center ที่ใกล้กลุ่มเป้าหมายของเราได้ (เช่น ถ้าใกล้ไทยสุดก็คือเลือกสิงคโปร์ได้เลยครับ) เพื่อลด latency ของเครือข่าย 
• สเกลได้ง่าย: เราสามารถเพิ่มหรือลด resource ตามความต้องการได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง

สมัครใช้งาน DigitalOcean

1. ไปที่หน้า DigitalOcean แล้วคลิก "Sign Up"

2. กรอกอีเมล เลือกรหัสผ่าน และคลิก "Sign Up"

3. ยืนยันอีเมลของเรา โดยคลิกลิงก์ยืนยันที่ส่งไปทางอีเมลครับ

4. เพิ่มวิธีการชำระเงิน เช่น บัตรเครดิต เพื่อเปิดใช้งานบัญชี

จากนั้นเลือกแพ็คเกจและเริ่มใช้งาน DigitalOcean!

Droplet 

Droplet คือ Virtual Server ตัวที่ทำงานบน DigitalOcean โดยเพื่อน ๆ สมาชิกสามารถสร้าง Droplet ได้ดังนี้

1. ล็อคอินเข้า DigitalOcean จากนั้นไปที่ "Create" > "Droplets"

2. เลือกระบบปฏิบัติการ (OS) ที่เราต้องการ เช่น Ubuntu, CentOS ฯลฯ , data center ที่ต้องการ

3. เลือกแพ็คเกจ Droplet ตามความต้องการด้าน CPU, RAM, และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล (Data Storage)

5. ตั้งค่าพื้นฐานเช่น SSH key, and Host name เป็นต้น

6. คลิก "Create Droplet" เพื่อเริ่มการสร้าง Droplet

หลังจาก Droplet ถูกสร้าง เพื่อน ๆ สามารถเชื่อมต่อผ่าน SSH และเริ่มติดตั้งหรือย้ายแอปพลิเคชันของเราด้วย DigitalOcean ได้ครับ

สรุป

หลังจากใช้งานมาสักพัก (ไม่สักพักแหละน่าจะ 5-6 ปีเลยฮ่า ๆ) ค่อนข้างรู้สึกประทับใจกับความเสถียรและความเร็วในการทำงานของ DigitalOcean มากเลยครับ เว็บไซต์และแอปพลิเคชันของผมทำงานได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด ลูกค้าของเราก็ชอบที่เว็บไซต์เร็ว โหลดไว

นอกจากนี้ DigitalOcean ยังรองรับการสเกลของธุรกิจได้ดีมากครับ เมื่อเว็บไซต์ของผมเริ่มมีคนเข้ามาใช้งานมากขึ้น ผมสามารถ Scale เซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดาย เพื่อรับมือกับ Traffic ที่เพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเซิร์ฟเวอร์ล่ม

สำหรับใครที่กำลังมองหาคลาวด์แพลตฟอร์มดี ๆ ผมแนะนำ DigitalOcean เลยครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนา Startup หรือธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง รับรองว่า DigitalOcean ตอบโจทย์ได้หมดแน่นอน ใช้งานง่าย ประสิทธิภาพสูง แถมคุ้มค่าอีกด้วย ลองใช้ดูครับ รับรองว่าจะชอบแบบผมเลย หรือถ้าใครที่อยากจะทำความเข้าใจจนสามารถตั้งค่า server พร้อมกับ deploy โปรเจคท์เว็บของตัวเองได้อย่างเชี่ยวชาญ ผมก็มี คอร์สเรียน Web Deployment on DigitalOcean ที่ผมได้ย่อยจากประสบการณ์เน้น ๆ มากกว่า 5-6 ปี เพื่อน ๆ ไม่ต้องลองผิดลองถูกกันให้เสียเวลาครับ