jsDelivr CDN กับแผนสำรองรับมือ ถ้าผู้ก่อตั้งไม่อยู่แล้วหรือเสียชีวิต

Dmitriy Akulov ผู้ก่อตั้ง jsDelivr สุดยอด CDN โอเพ่นซอร์สยอดนิยมระดับโลก ได้เขียนแผนสำรองในกรณีที่เขาเสียชีวิตหรือไม่สามารถบริหารงานต่อไปได้ (หรือที่เรียกว่า "The bus factor") ในหน้า Wiki ของ jsdelivr 

(ปล.จากเหตุการณ์ jsdelivr ล่มวันก่อน ที่ทาง devhub.in.th ได้โพสต์บน Facebook เป็นที่มาของบทความนี้ครับ)

jsdelivr โอเพ่นซอร์ส CDN ยอดนิยมของโลก

Dmitriy กล่าวว่า jsDelivr เป็นเซอร์วิสที่ใหญ่มาก มีผู้ใช้งานหลายล้านคนและมียอดใช้งานเกือบ 70 พันล้าน (requests) ต่อเดือน 

ส่วนนิยมและคนใช้เยอะและมีชื่อเสียงแค่ไหน? คิดดูเอาครับว่า jsdelivr เป็น default CDN บน official web ของ Bootstrap

jsdelivr คือ default CDN ของ Bootstrap

บทความแนะนำ: CDN คืออะไร ทุกสิ่งอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ CDN

ไม่มีใครนอกจาก Dmitriy ที่มีสิทธิ์เข้าถึงเซอร์วิสและเซิร์ฟเวอร์ทุกอย่างของ jsDelivr โดยสมบูรณ์ เพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่มีหลายคนที่มีสิทธิ์เข้าถึงในระดับต่าง ๆ และสามารถรวมกันเพื่อสานต่อ jsDelivr หลังจากเขาเสียชีวิต

โดย Dmitriy เชื่อว่า Justin Dorfman เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในการบริหาร jsDelivr ต่อจากแก เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน CDN และเป็นผู้สนับสนุน open source ที่ดี

Note: "The Bus Factor" เป็นสำนวนที่ใช้เปรียบเปรยถึงความเสี่ยงของโครงการหรือองค์กร ที่พึ่งพาบุคคลสำคัญเพียงไม่กี่คนหรือเพียงคนเดียว

กระบวนการนี้จะเริ่มเมื่อไหร่?

ขั้นตอนแรกคือการยืนยันว่า Dmitriy ไม่สามารถบริหารงานต่อได้ โดยติดต่อเขาผ่านโซเชียลมีเดีย หากเขาหายตัวไปนานกว่า 3 เดือน ให้เริ่มจัดการเปลี่ยนผ่านอำนาจได้เลย

Dmitriy ได้ระบุรายชื่อผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงบริการต่าง ๆ เช่น CDN, Load-balancing, DNS, โค้ด และบอท เพื่อให้สามารถติดต่อและทำงานร่วมกันเพื่อสานต่อ jsDelivr ได้อย่างราบรื่น

บทวิเคราะห์จากทีมงาน devhub.in.th

แผนสำรองของ Dmitriy สะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบและความรอบคอบในการบริหารโปรเจคท์ open source ขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบต่อผู้ใช้จำนวนมาก การระบุผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงและวางแผนการเปลี่ยนผ่านอำนาจล่วงหน้า จะช่วยให้โปรเจคท์สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นแม้ในกรณีที่ผู้ก่อตั้งไม่สามารถบริหารงานต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม การพึ่งพิงผู้ก่อตั้งหรือผู้นำเพียงคนเดียวในการบริหารโครงการใหญ่ ๆ อาจเป็นความเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง ดังนั้นการกระจายอำนาจและความรับผิดชอบให้กับสมาชิกในทีมหลาย ๆ คน รวมถึงการจัดทำเอกสารและขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน จะช่วยลดความเสี่ยงจาก "The bus factor" และทำให้โครงการมีความยั่งยืนมากขึ้น

กรณีนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารและความร่วมมือในคอมมูฯ open source การที่ Dmitriy มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ให้บริการและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยรวมแล้วคิดว่าแผนสำรองของ Dmitriy เป็นตัวอย่างที่ดีของการบริหารโปรเจคท์ open source อย่างมีความรับผิดชอบ แม้จะยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง แต่ก็ถือเป็นแนวทางที่น่าสนใจสำหรับโครงการอื่น ๆ ในการวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและสร้างความยั่งยืนให้กับโครงการในระยะยาวได้ครับ

อ้างอิง

• What to do if I die aka The bus factor - github.com/jsdelivr