Blameless Culture (วัฒนธรรมไร้ซึ่งการตำหนิ)

   By: DH Team

   อัปเดตล่าสุด Nov. 7, 2024

Blameless Culture (วัฒนธรรมไร้ซึ่งการตำหนิ)

บทความนี้มีชื่อว่า "วัฒนธรรมไร้ซึ่งการตำหนิ (Blameless Culture) ควรเป็นมาตรฐานในวงการวิศวกรรม (ซอฟต์แวร์)" อ่านแล้วน่าสนใจ เขียนโดยคุณ Gregor Ojstersek วิศวกรซอฟต์แวร์ (software engineer) ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี เจ้าของช่องสุดฮิตบน substack อย่าง Engineering Leadership ที่มียอดซัพผ่าน newsletter มากกว่า 47K+ subscribers โดยขอนำมาแปลและเรียบเรียงให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้อ่านกันครับ


การโทษกันไปมา ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา

ตลอดอาชีพของคุณ Gregor นั้น แกได้เห็นทั้งวัฒนธรรมที่ดีและไม่ดีในองค์กรต่าง ๆ มามากมาย และได้พบว่า จุดร่วมของวัฒนธรรมที่ไม่ดี (Bad Culture) คือ การโทษกันเอง ส่งผลให้พนักงานไม่กล้าพูดความจริง ทั้งยังได้เล่าถึงประสบการณ์ของตัวแกเองที่เคยเอาแต่โทษผู้อื่นในช่วงเริ่มต้นอาชีพ

"การโทษกันไปมา ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา การพยายามหาตัวผู้รับผิดชอบ นั้นเสียเวลาเปล่า เพราะกระบวนการทำงานปกติมีการตรวจสอบโค้ดหลายขั้นตอนอยู่แล้ว เช่น code review, automated test, QA testing"


ข้อดีของ Blameless Culture

คุณ Gregor เคยเป็นผู้ที่เขียนโค้ดที่ก่อปัญหามาแล้ว หรือเคย approve โค้ดที่มีปัญหานี้ผ่าน code review ประสบการณ์ตรงนี้ทำให้แกเปลี่ยนมุมมอง ไม่มีการโทษคนอื่นอีกต่อไป

สิ่งที่ต้องการที่ว่าคือ "การสร้างวัฒนธรรมไร้การตำหนิ (Blameless Culture)" ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่พนักงานกล้าทำผิดพลาดโดยไม่ถูกต่อว่าหรือตำหนิ โดยวัฒนธรรมนี้มีข้อดีหลายอย่าง เช่น

  • ✅ 1. พนักงานกล้าพูดในสิ่งที่คิดเห็น ไม่กลัวผลลัพธ์ที่จะตามมา ทำให้ได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ
  • ✅ 2. เมื่อไม่ถูกตำหนิ พนักงานกล้าเผยข้อผิดพลาด ทำให้ทีมเรียนรู้และป้องกันปัญหาได้เร็วยิ่งขึ้นจากความผิดพลาด
  • ✅ 3. เมื่อไม่มีการโทษกันไป ทำให้พนักงานร่วมไม้ร่วมมือกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
  • ✅ 4. พนักงานมุ่งมั่นแก้ไขข้อผิดพลาดและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น


ดังนั้นคุณ Gregor แกจึงแนะนำอีกว่า เมื่อเกิดปัญหา ควรเน้นการเรียนรู้ร่วมกัน ไม่ใช่หาคนผิด

เพราะเมื่อไม่มีการตำหนิ พนักงานจะทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ช่วยให้ทุกคนเติบโตและสร้างสรรค์ผลงานที่ดียิ่งขึ้นไปอีก


อ้างอิง


เปิดโลกการเขียนโปรแกรมและ Software Development ด้วย online courses ที่จะพาคุณอัพสกิลและพัฒนาสู่การเป็นมืออาชีพ เรียนออนไลน์ เรียนจากที่ไหนก็ได้ พร้อมซัพพอร์ตหลังเรียน

เรียนเขียนโปรแกรม